เมื่อฤดูกาลปิดเทอมใหญ่ของเหล่านักเรียนนักศึกษามาเยือน เทศกาลสงกรานต์ก็กำลังจะมาถึง หลายท่าน หลายครอบครัว ต่างก็วางแผนกลับบ้านต่างจังหวัดในวันหยุดยาว บ้างก็วางแผนไปท่องเที่ยว ซึ่งนั่นหมายความถึงบนท้องถนนจะมีทั้งคนและยวดยานที่สัญจรไปมาเพิ่มมากขึ้น เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อ จำนวนรถเพิ่ม อัตราการเกิดอุบัติเหตุก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงการเดินทางไม่ได้ก็ต้องมีวิธีการที่จะป้องกันตนเองและผู้อื่นให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เพียงมีหลักขับขี่สี่ประการไว้ในใจ ดังนี้
- ตรวจทุกสภาพ
ก่อนออกเดินทางทั้งใกล้ไกล สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ ตรวจทั้งสภาพรถและสภาพผู้ขับขี่ให้อยู่ในภาวะที่มีความพร้อมที่สุด อาทิเช่น ตรวจเช็คทั้งระบบไฟ แผงควบคุม อุปกรณ์ภายในรถว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ตรวจและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด เป็นต้น ส่วนตัวผู้ขับขี่เองนั้นควรอยู่ในสภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่รับประทานยาใด ๆ ที่มีผลทำให้ง่วงซึมทำให้สมรรถภาพในการขับขี่ลดลง และควรนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนวันออกเดินทาง
- ขับให้มีสติ
การขับขี่ยวดยานพาหนะทุกชนิดนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ สติในการขับขี่ เราต้องมีสมาธิอยู่กับการขับรถ หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นเฉพาะหน้า สติจะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ทันท่วงที อาจหลีกเลี่ยงได้ทันควันหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ การกระทำอื่นใดที่จะดึงสมาธิเราในลดน้อยถอยลงนั้นควรหลีกเลี่ยง เช่น การเล่นโทรศัพท์มือถือ การรับประทานอาหาร เป็นต้น
- คิดเผื่อไว้แหละดี
การคิดเผื่อ คืออะไร คิดเผื่อคือ บนท้องถนนมีคนมากมายหลายหลากที่มาจากต่างท่องที่ ต่างนิสัย ต่างความคิด อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแม้ว่าเราจะระมัดระวังอย่างที่สุดแล้วก็ตามที เช่น เราขับทางหลักผ่านเขตชุมชนที่เขียนว่าเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลี้ยวได้ทันควัน อาจมีรถเล็กรถใหญ่ที่ขับย้อนศรมา ให้ดูหน้าดูหลังให้ดี หรือกระทั่งสัญญาณจราจร เมื่อมีสัญญาณไฟเขียวแล้วก็ตาม ให้เรามองรถจากทุกช่องทางการขับขี่ก่อน แล้วค่อย ๆ ออกตัวไม่ใช่เหยียบพุ่งออกไปอย่างแรง เพราะอาจมีรถที่มาจากอีกด้านที่เมื่อไฟเหลืองก็ยังไม่ยอมหยุด พยายามเหยียบออกไปและเบรกไม่ทัน อาจเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุชนกันได้ เหล่านี้เป็นต้น
- ขับขี่มีน้ำใจ
น้ำใจ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการขับขี่บนท้องถนน จากหลายกรณีที่เราเห็นตามข่าวและหน้าหนังสือพิมพ์ ล้วนแล้วมีสาเหตุจากความใจร้อน รีบเร่ง เห็นแก่ตัว ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ และการสูญเสียตามมา เพียงแค่เราใจเย็นลง มีน้ำใจ มีรอยยิ้มให้ผู้ร่วมทาง เป็นเรื่องที่ทำไม่ยากเลย เช่น มีรถจอดรอด้านซ้ายจะขึ้นมาบนเส้นหลัก เราขับอยู่เลนซ้าย เมื่อเรามองดูผ่านกระจกแล้วพบว่ารถเลนขวาว่าง ก็ควรเปลี่ยนเลนมาด้านขวาเพื่อให้รถคันนั้นขึ้นมาบนเลนซ้ายได้ หรือเราขับขวาอยู่แต่มีรถที่ขับเร็วกว่าขับตามมาด้านหลัง เราก็ควรเปลี่ยนเลนไปซ้ายเพื่อให้เขาแซงไปได้ เหล่านี้เป็นต้น
หลักขับขี่สี่ประการนี้ คงเป็นประโยชน์ให้ผู้ขับขี่ได้ไม่มากก็น้อย เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น ท่องไว้ “ ตรวจทุกสภาพ ขับให้มีสติ คิดเผื่อไว้แหละดี ขับขี่มีน้ำใจ ”